ในยุคที่ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสี UV มากขึ้น แนวคิดของ วิตามินกินกันแดด (oral photoprotection / edible sunscreen / sun-protection supplements) จึงได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว เพราะช่วยเสริมการป้องกันผิวจากภายใน ร่วมกับครีมกันแดดภายนอก ปัจจุบันผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ “ครบจบจุดเดียว” ที่ให้ความสะดวกและประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสกัดจากธรรมชาติและสารต้านอนุมูลอิสระขั้นสูงถูกนำมาผสมเป็นสูตรใหม่ ๆ ที่ให้คุณค่าในการลดความเสียหายของดีเอ็นเอ (DNA damage), ออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ และต้านอนุมูลอิสระ (oxidative stress) ได้มากขึ้น นวัตกรรมเหล่านี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้วิตามินกินกันแดดกลายเป็นดาวเด่น ในกลุ่มอาหารเสริมเพื่อความงาม (nutricosmetics) ในปีหลัง ๆ นี้
วิตามินกินกันแดดช่วยเรื่องอะไรบ้าง
1. ช่วยลดการอักเสบของผิวหลังโดนแดด (Anti-inflammatory effect)
- แสงแดด โดยเฉพาะรังสี UVB ทำให้ผิวอักเสบ แดง แสบ และไหม้
- วิตามินกินกันแดด เช่น วิตามิน C, วิตามิน E, Astaxanthin, Lycopene, และสารสกัด Polypodium leucotomos (เฟิร์นสกัด)
มีคุณสมบัติลด cytokines และ prostaglandin ที่เป็นตัวก่อการอักเสบ ทำให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น - งานวิจัยจาก Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology (2015) พบว่า การรับประทานสารสกัด Polypodium leucotomos ช่วยลดอาการผิวไหม้แดดได้ถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน
2. ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและจุดด่างดำ (Anti-melanogenesis)
- แสงแดดกระตุ้นเซลล์เม็ดสี (melanocytes) ให้สร้างเมลานินเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดฝ้า กระ และสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- วิตามิน C, L-Cystine, Glutathione, และ Astaxanthin มีบทบาทในการ ยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase
ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญในกระบวนการสร้างเม็ดสีผิว - งานวิจัยใน Journal of Dermatological Science (2019) พบว่า กลุ่มที่รับประทานวิตามิน C และ E ร่วมกันต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ มีค่า “melanin index” ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
3. เสริมการปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB (Photoprotection)
- วิตามินกินกันแดดไม่ได้ “กันแดดแทนครีม” แต่ช่วยเสริมประสิทธิภาพจากภายใน
- สารอย่าง Beta-carotene, Lycopene, Astaxanthin, และ Polyphenols จากชาเขียวหรือองุ่น
จะช่วยลดการเกิด oxidative stress ในผิวและช่วยป้องกันการทำลายของ DNA ในเซลล์ผิวจากรังสี UV - งานวิจัยใน Photochemical & Photobiological Sciences (2020) ระบุว่า การรับประทาน Astaxanthin 4 มก./วัน เป็นเวลา 9 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มค่าความทนต่อแสง UV (Minimal Erythema Dose) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
4. ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวและชะลอความเสื่อมจากแสงแดด (Anti-photoaging)
- แสงแดดทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ส่งผลให้เกิดริ้วรอย
- วิตามินกินกันแดด เช่น Astaxanthin, Coenzyme Q10, Collagen Peptide, และ Grape Seed Extract
ช่วยลดการสลายของคอลลาเจน (โดยยับยั้ง MMP-1) และส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนใหม่ - งานวิจัยจาก Carotenoid Science Journal (2012) พบว่า Astaxanthin มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่า Vitamin E ถึง 100 เท่า และช่วยลดริ้วรอยจากแสงแดดได้จริง
5. ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี กระจ่างใสจากภายใน (Skin Brightening & Radiance)
- เมื่อความเสียหายจากอนุมูลอิสระลดลง การหมุนเวียนเลือดในชั้นผิวดีขึ้น ผิวจะดูมีชีวิตชีวาและเรียบเนียนขึ้น
- วิตามิน C, Zinc, และ L-Cystine ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นโดยธรรมชาติ
- วิตามินกินกันแดดยังช่วยลดอาการผิวแห้งเสียจากแดด ทำให้ผิวชุ่มชื้นและแข็งแรง
6. เสริมระบบภูมิคุ้มกันของผิว (Skin Immune Defense)
- แสงแดดสามารถลดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในผิว ทำให้ผิวไวต่อการติดเชื้อหรือระคายเคือง
- วิตามิน D, Selenium และ Zinc มีบทบาทช่วยให้ผิวแข็งแรงและลดการอักเสบเรื้อรัง
ข้อจำกัดของวิตามินกันแดด
- วิตามินกันแดด ไม่สามารถทดแทนครีมกันแดดได้ ควรใช้ควบคู่กัน
- การเลือกผลิตภัณฑ์ควรตรวจสอบแหล่งผลิต มี อย. รับรอง และไม่เกินปริมาณที่แนะนำ
- สตรีมีครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
Maydi International โรงงานรับผลิตวิตามินกินกันแดด
หากคุณกำลังมองหาโรงงานรับผลิตอาหารเสริมครบวงจร (OEM / ODM) สำหรับวิตามินกินกันแดดที่มีคุณภาพและครบวงจร Maydi International เราพร้อมดูแลคุณด้วยทีม R&D และเภสัชกรดูแลสูตรและคุณภาพผลิตภัณฑ์
ผลิตสูตรวิตามินกันแดดแบบรับประทานได้ พร้อมจุดเด่นนวัตกรรมใหม่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และ ลดการอักเสบใต้ชั้นผิว ป้องกันผลกระทบจากรังสี UV
พร้อมออกแบบบรรจุภัณฑ์ การขอเลข อย. ไปจนถึงการผลิตจริง และการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานสากลของ SGS ที่เราตรวจสอบไม่ว่าจะเป็น (GMP, ISO, HACCP) เพื่อช่วยให้แบรนด์ของคุณเข้าสู่ตลาดด้วยผลิตภัณฑ์วิตามินกินกันแดดที่มีคุณภาพและมาตรฐาน
